8 ไอเดียซื้อของขวัญเพื่อสุขภาพให้ผู้ใหญ่ ราคาไม่แพง

ไอเดียของขวัญผู้สูงอายุ

ในยุคที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น การเลือกของขวัญเพื่อสุขภาพจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการมอบให้ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ ดังนั้น The Selection จึงรวบรวมไอเดียของขวัญมามาแนะนำถึง 8 ชิ้นด้วยกัน เพื่อให้คุณมั่นใจว่าจะสามารถมอบของขวัญที่มีประโยชน์และตรงใจผู้รับในทุกเทศกาล

 

ไอเดียของขวัญผู้สูงอายุ

 

วิธีเลือกซื้อของขวัญเพื่อสุขภาพให้ผู้ใหญ่

การเลือกของขวัญเพื่อสุขภาพให้ผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุ จำเป็นต้องคำนึงถึงหลายปัจจัยประกอบกัน เพื่อให้ได้สิ่งที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์อย่างแท้จริง ซึ่งมีเทคนิคสำคัญดังต่อไปนี้

  • พิจารณาอายุและสภาพร่างกาย
    สิ่งแรกที่ควรทำคือการทำความเข้าใจผู้รับของขวัญให้ถ่องแท้เสียก่อน เพราะผู้ใหญ่แต่ละคนมีความต้องการและสภาพร่างกายที่แตกต่างกัน ดังนั้น การสังเกตและสอบถามข้อมูลเบื้องต้นจึงมีความสำคัญ เนื่องจากจะช่วยให้เราเลือกของขวัญได้ตรงกับความต้องการและเกิดประโยชน์ต่อผู้รับอย่างแท้จริง
  • ตรวจสอบมาตรฐานและความปลอดภัย
    หลังจากทราบความต้องการแล้ว สิ่งสำคัญลำดับต่อมาคือการเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน โดยต้องตรวจสอบการรับรองจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ เพราะนอกจากจะสร้างความมั่นใจในการใช้งานแล้ว ยังช่วยป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย
  • ความสะดวกในการใช้งาน
    แม้ว่าคุณภาพและความปลอดภัยจะสำคัญ แต่ของขวัญที่ดีก็ควรใช้งานง่ายและไม่ซับซ้อน เพราะหากผลิตภัณฑ์มีขั้นตอนการใช้งานที่ยุ่งยาก ก็อาจทำให้ผู้รับรู้สึกลำบากจนเลือกที่จะไม่ใช้งานในที่สุด
  • ประโยชน์ระยะยาว
    นอกจากปัจจัยข้างต้นแล้ว สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือคุณค่าและประโยชน์ในระยะยาว เนื่องจากของขวัญเพื่อสุขภาพที่ดีควรช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้รับให้ดีขึ้น อีกทั้งควรใช้งานได้อย่างต่อเนื่องและคุ้มค่า
  • ความเหมาะสมกับโอกาส
    สุดท้ายแล้ว การเลือกของขวัญควรต้องคำนึงถึงความเหมาะสมกับเทศกาลหรือโอกาสพิเศษนั้น ๆ ด้วย เพราะการเลือกของขวัญที่เข้ากับโอกาสจะช่วยเพิ่มคุณค่าทางจิตใจ ซึ่งจะทำให้ผู้รับรู้สึกถึงความตั้งใจและความปรารถนาดีของผู้ให้อย่างแท้จริง

 

8 ไอเดียซื้อของขวัญเพื่อสุขภาพให้ผู้ใหญ่ ราคาไม่แพง เหมาะกับทุกเทศกาล

สำหรับใครที่กำลังมองหาของขวัญปีใหม่หรือในวันสำคัญต่าง ๆ ให้ผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุ เรามีไอเดียของขวัญเพื่อสุขภาพมาแนะนำ 8 ชิ้น มาดูกันว่าจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง

1. รองเท้าเพื่อสุขภาพ

เริ่มต้นด้วยของขวัญที่ช่วยดูแลสุขภาพตั้งแต่ปลายเท้า นั่นคือรองเท้าที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ โดยทั่วไปแล้ว รองเท้าประเภทนี้จะมีโครงสร้างพิเศษและแผ่นรองฝ่าเท้าแบบ 3 มิติ ซึ่งช่วยกระจายแรงกดทับได้อย่างสมดุล นอกจากนี้ ยังมีระบบรองรับแรงกระแทกที่ช่วยลดอาการปวดเมื่อยขณะเดินหรือยืน จึงเหมาะสำหรับผู้ใหญ่ที่ต้องยืนนานหรือผู้สูงอายุที่ต้องการรองเท้าที่ช่วยป้องกันการบาดเจ็บจากการสะดุดหรือลื่นล้ม

2. ถุงเท้าสุขภาพ

เมื่อพูดถึงการดูแลเท้าแล้ว อีกหนึ่งนวัตกรรมที่ไม่ควรมองข้ามคือถุงเท้าที่ออกแบบมาพิเศษสำหรับผู้ใส่ใจสุขภาพ ด้วยเนื้อผ้าที่มีความยืดหยุ่นสูงแต่ไม่บีบรัดบริเวณข้อเท้า พร้อมคุณสมบัติระบายอากาศที่ช่วยป้องกันการอับชื้น จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ใหญ่วัยทำงานที่ต้องใส่รองเท้าเป็นเวลานาน หรือผู้สูงอายุที่มักมีปัญหาเรื่องการไหลเวียนเลือดบริเวณเท้า

3. หมอนลดกรดไหลย้อน/หมอนสุขภาพ

จากการดูแลสุขภาพเท้า มาต่อกันที่การพักผ่อนที่มีคุณภาพ โดยหมอนสุขภาพถือเป็นของขวัญที่น่าสนใจ ด้วยการออกแบบที่ยกส่วนบนให้สูงกว่าปกติเล็กน้อย อีกทั้งยังมีรูปทรงที่โค้งรับตามแนวกระดูกคออย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้สามารถช่วยบรรเทาอาการกรดไหลย้อนและลดการปวดเมื่อยบริเวณต้นคอได้อย่างดี จึงเหมาะสำหรับผู้ใหญ่วัยทำงานที่มักมีปัญหาการนอน หรือผู้สูงอายุที่ต้องการยกระดับคุณภาพการนอนของตนเอง

4. ผ้าห่มใยไผ่ ผ้าปูเตียงใยไผ่

เมื่อมีหมอนที่ดีแล้ว สิ่งที่จะช่วยเสริมการนอนหลับที่มีคุณภาพก็คือ ผลิตภัณฑ์จากเส้นใยไผ่ธรรมชาติ ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษในการระบายอากาศและต้านเชื้อแบคทีเรีย ทำให้ผู้ใช้รู้สึกสบายตัวตลอดการพักผ่อน นอกจากนี้ ด้วยความนุ่มนวลของเนื้อผ้า จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มักมีผิวบอบบางและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ

5. อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ

เมื่อร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่แล้ว การดูแลสุขภาพจากภายในก็สำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้น อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพจึงเป็นของขวัญที่น่าสนใจสำหรับผู้ใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีตัวเลือกที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นชาสมุนไพรที่ช่วยผ่อนคลาย น้ำผลไม้ที่อุดมด้วยวิตามิน หรือแม้แต่อาหารเสริมที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน ซึ่งตอบโจทย์ผู้ใหญ่ที่ต้องการดูแลสุขภาพแต่อาจไม่มีเวลาเลือกซื้อหรือจัดเตรียมด้วยตนเอง

6. ชุดจานชามพอร์ซเลนคุณภาพสูง

เมื่อมีอาหารดี ๆ แล้ว อุปกรณ์รับประทานก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยชุดจานชามพอร์ซเลนเพื่อสุขภาพนี้ได้รับการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ที่คำนึงถึงการใช้งานจริง ด้วยรูปทรงที่โค้งมนพิเศษ จึงช่วยให้ตักอาหารได้ง่ายแม้จะใช้มือเพียงข้างเดียว นอกจากนี้ ยังมาพร้อมขอบพิเศษที่ช่วยป้องกันอาหารหกเลอะ ซึ่งไม่เพียงช่วยลดภาระการใช้งานข้อมือเท่านั้น แต่ยังทำให้การรับประทานอาหารเป็นเรื่องที่สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น จึงเหมาะสำหรับผู้ใหญ่ที่เริ่มมีปัญหาการใช้งานข้อมือ หรือผู้สูงอายุที่ต้องการความช่วยเหลือในการรับประทานอาหาร

7. เครื่องหอมตำรับไทย เพื่อการผ่อนคลาย

หลังจากดูแลเรื่องการรับประทานอาหารแล้ว อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามก็คือการผ่อนคลาย ซึ่งเครื่องหอมสมุนไพรไทยที่ผลิตด้วยกรรมวิธีดั้งเดิมสามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยบรรเทาอาการวิงเวียนและหน้ามืดเท่านั้น แต่กลิ่นหอมจากสมุนไพรธรรมชาติยังช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับมอบให้ผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุที่ชื่นชอบการดูแลสุขภาพแบบธรรมชาติ และต้องการทางเลือกที่ปลอดภัยแทนการใช้ยาแผนปัจจุบัน

8. ดอกไม้ประดิษฐ์ทำมือ

นอกเหนือจากกลิ่นหอมของเครื่องหอมสมุนไพรแล้ว สภาพแวดล้อมที่สวยงามก็มีส่วนสำคัญในการสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ด้วยเหตุนี้ ดอกไม้ประดิษฐ์จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะไม่เพียงสวยงามเหมือนดอกไม้จริงเท่านั้น แต่ยังปลอดภัยสำหรับผู้ที่แพ้ละอองเกสร ซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อยในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ อีกทั้งยังใช้ตกแต่งบ้านเพื่อสร้างบรรยากาศผ่อนคลายได้อย่างยาวนาน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการดูแลรักษาหรือเปลี่ยนดอกไม้บ่อย ๆ เหมือนดอกไม้สด

สำหรับผู้ที่สนใจของขวัญเหล่านี้เพื่อมอบให้ผู้ใหญ่หรือมองหาสินค้าผู้สูงอายุ ผลิตภัณฑ์ผู้สูงอายุ สามารถเลือกชมและสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ของ The Selection พร้อมรับโปรโมชันพิเศษและบริการจัดส่งถึงบ้าน หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม เรายินดีให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้คุณได้ของขวัญที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคนที่คุณรัก

คนป่วยกินอะไรได้บ้าง ? แนะนำ 5 เมนูที่ช่วยให้หายป่วยเร็ว

อาหารสำหรับคนป่วย

ในช่วงที่ร่างกายกำลังป่วยหรือพักฟื้น การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมนับเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้หายป่วยเร็วขึ้น The Selection เข้าใจถึงความต้องการนี้เป็นอย่างดี เราจึงรวบรวมเมนูอาหารสำหรับคนป่วยที่รับประทานง่าย มีประโยชน์ และช่วยฟื้นฟูร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพมาแนะนำกัน

 

การรับประทานอาหารสำหรับคนป่วยโดยเฉพาะสำคัญอย่างไร ?

เมื่อร่างกายอยู่ในภาวะเจ็บป่วย การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและเร่งการฟื้นตัวของร่างกายได้ดียิ่งขึ้น มาดูกันว่าทำไมการเลือกเมนูสำหรับคนป่วยโดยเฉพาะจึงสำคัญ

  • เพิ่มพลังงานให้ร่างกาย
    ในช่วงที่ป่วย ร่างกายต้องใช้พลังงานมากกว่าปกติในการต่อสู้กับเชื้อโรค ดังนั้น การได้รับสารอาหารที่เหมาะสมจึงช่วยให้ร่างกายมีพลังงานเพียงพอในการฟื้นตัว
  • ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
    นอกจากพลังงานแล้ว อาหารที่อุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุยังช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายแข็งแรงและต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดีขึ้น
  • ป้องกันภาวะขาดสารอาหาร
    เนื่องจากผู้ป่วยมักมีความอยากอาหารลดลง การเลือกอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงจึงช่วยป้องกันการขาดสารอาหารที่จำเป็น
  • ช่วยลดอาการไม่สบาย
    อาหารที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายจะช่วยบรรเทาอาการไม่สบายต่าง ๆ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสีย

 

อาหารสำหรับคนป่วย

 

คนป่วยกินอะไรได้บ้าง ? รวม 5 เมนูอาหารที่คนป่วยกินได้ เหมาะแก่การเยี่ยมไข้

สำหรับคนที่สงสัยว่าถ้าคนไม่สบายควรกินอะไรเพื่อช่วยให้หายป่วยได้เร็วขึ้น เราจึงรวบรวมเมนูที่เหมาะสำหรับการซื้อไปเยี่ยมผู้ป่วยมาแนะนำ ดังต่อไปนี้

1. อาหารประเภทซุปหรือน้ำแกง

อันดับแรกต้องยกให้กับอาหารที่รับประทานง่ายและเป็นที่นิยมสำหรับผู้ป่วย นั่นคืออาหารประเภทซุปหรือน้ำแกง เช่น ซุปไก่ใส่ผัก แกงจืดเต้าหู้ หรือต้มจับฉ่าย เพราะน้ำซุปอุ่น ๆ ไม่เพียงช่วยคลายความเจ็บคอ แต่ยังช่วยขับเสมหะและบรรเทาอาการคัดจมูกได้อีกด้วย นอกจากนี้ อาหารประเภทนี้ยังสามารถอุ่นทานได้หลายมื้อ จึงเป็นตัวเลือกที่สะดวกและประหยัดเวลาสำหรับผู้ป่วยที่ต้องพักผ่อนมาก ๆ หรือไม่สะดวกในการจัดเตรียมอาหารบ่อยครั้ง

2. อาหารที่มีโปรตีนสูง

ในขณะที่อาหารประเภทซุปมีความสำคัญ อาหารที่มีโปรตีนสูงก็จำเป็นไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเมนูอย่างปลานึ่งซีอิ๊ว ไข่ตุ๋น หรือเต้าหู้นึ่งหมูสับ เพราะนอกจากจะย่อยง่ายแล้ว ยังอุดมไปด้วยโปรตีนคุณภาพดีที่จำเป็นต่อการฟื้นฟูร่างกาย ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับเป็นของฝากผู้ป่วยที่ต้องการสารอาหารเพื่อซ่อมแซมร่างกายโดยเฉพาะ

3. ผักและผลไม้

หลังจากที่ร่างกายได้รับโปรตีนเพียงพอแล้ว ผู้ป่วยยังจำเป็นต้องเสริมสร้างภูมิต้านทานด้วยวิตามินจากผักและผลไม้ที่หลากหลายอีกด้วย โดยเฉพาะผลไม้สดตามฤดูกาลอย่างส้ม ฝรั่ง หรือมะละกอสุกที่อุดมด้วยวิตามินซี รวมถึงผักนึ่งที่ย่อยง่ายอย่างบรอกโคลี ฟักทอง และแคร์รอต ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันและทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น อันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ป่วยที่ต้องการเติมวิตามินและแร่ธาตุเพื่อการฟื้นฟูร่างกาย

4. เครื่องดื่มสมุนไพรบำรุงร่างกาย

นอกเหนือจากอาหารที่มีประโยชน์แล้ว การเลือกเครื่องดื่มที่ดีก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะสมุนไพรไทยที่มีสรรพคุณเฉพาะตัว เช่น น้ำขิงผสมน้ำผึ้งมะนาวที่ช่วยบรรเทาอาการไอ น้ำใบเตยผสมเก๊กฮวยที่ช่วยลดไข้ หรือน้ำกระเจี๊ยบที่อุดมด้วยวิตามินซี ซึ่งน้ำสมุนไพรทั้งหมดนี้ ล้วนมีคุณสมบัติที่เก็บรักษาง่ายและดื่มได้ตลอดวัน จึงเป็นของฝากที่สะดวกและเหมาะสมสำหรับการเยี่ยมผู้ป่วย

5. อาหารทางการแพทย์สูตรครบถ้วน

สุดท้ายแล้ว อีกหนึ่งตัวเลือกที่ทั้งสะดวกและมีประโยชน์คือ อาหารเสริม Ensure Gold จาก The Selection ซึ่งประกอบด้วยโปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหารครบถ้วน เหมาะสำหรับมอบให้ผู้ป่วยที่รับประทานอาหารได้น้อย ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่อยู่ในระยะพักฟื้น โดยสามารถทานเสริมระหว่างมื้อหรือหลังมื้ออาหารได้ นอกจากนี้ ด้วยบรรจุภัณฑ์ที่พกพาสะดวกและเก็บรักษาง่าย จึงเป็นของฝากที่เหมาะสำหรับทั้งผู้ให้และผู้รับ อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับอาหารที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

เลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริม Ensure Gold ที่มีสารอาหารครบถ้วนเหมาะสำหรับคนป่วย ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่อยู่ในระยะพักฟื้นได้แล้ววันนี้ที่ The Selection เรามี อุปกรณ์ผู้สูงอายุ สินค้าสําหรับผู้สูงอายุ โดยสามารถเลือกชมและสั่งซื้อสินค้าผ่านทางเว็บไซต์ของเรา พร้อมรับโปรโมชันส่วนลดพิเศษและบริการจัดส่งถึงบ้าน หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ของเราตลอด 24 ชั่วโมง

11 วิตามินและอาหารเสริมสำคัญที่ควรกินในชีวิตประจำวัน

ผู้หญิงกำลังเทวิตามินและอาหารเสริมที่ควรกินลงบนมือ

การใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบในทุกวันนี้ อาจทำให้เราละเลยการดูแลสุขภาพไป โดยเฉพาะในเรื่องของการกินอาหารที่ไม่เป็นเวลา รวมไปถึงการเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ด้วยเหตุนี้ ผลิตภัณฑ์วิตามินที่มีอยู่ในท้องตลาดจึงกลายเป็นตัวช่วยสำคัญในการเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรงของคนยุคใหม่ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะเลือกผลิตภัณฑ์วิตามินใด ๆ มาช่วยเสริมเรื่องสุขภาพก็ตาม เราควรรู้ถึงอาหารเสริมที่ควรกิน และวิธีการกินที่ถูกต้องเสียก่อน ทั้งนี้เพราะวิตามินแต่ละชนิดตอบโจทย์การดูแลสุขภาพที่แตกต่างกันออกไป

ผู้หญิงกำลังเทวิตามินและอาหารเสริมที่ควรกินลงบนมือ

ทำไมต้องกินวิตามินหรืออาหารเสริม ?

เหตุผลสำคัญที่เราควรกินวิตามินมีดังนี้

  • ชดเชยปริมาณสารอาหารที่ขาดหายไป
    การกินวิตามินช่วยชดเชยสารอาหารที่ร่างกายไม่ได้รับอย่างเพียงพอ เพราะในแต่ละวันเรามักเลือกกินตามความสะดวกมากกว่าคุณค่าทางโภชนาการ ดังนั้น วิตามินจึงเป็นตัวช่วยที่เข้ามาเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปนี้
  • เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
    นอกเหนือจากนั้น วิตามินยังช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ทั้งนี้เพราะวิตามินหลายชนิดมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งไม่เพียงช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลายเท่านั้น แต่ยังทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้นด้วย
  • ชะลอความเสื่อมของเซลล์
    ในขณะเดียวกัน วิตามินบางชนิดยังช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย ด้วยการต่อสู้กับอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุให้เซลล์เสื่อมเร็วขึ้น ทำให้เซลล์ต่าง ๆ ยังคงแข็งแรงและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • บำรุงและกระตุ้นการทำงานของสมอง
    ประโยชน์สำคัญที่ไม่แพ้เรื่องอื่น ๆ คือ การรับประทานวิตามินมีส่วนช่วยเรื่องสมองและอารมณ์ เนื่องจากสารอาหารบางอย่างจำเป็นต่อการสร้างสารสื่อประสาทที่ควบคุมอารมณ์ ซึ่งจะช่วยให้เรารู้สึกสดชื่น และทำให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

กินวิตามินอะไรดี ? แนะนำ 11 วิตามินและอาหารเสริมที่ควรกินทุกวัน

การเลือกวิตามินและอาหารเสริมที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลสุขภาพ สำหรับวิตามินแนะนำที่อยากให้กินเสริมในชีวิตประจำวันมีดังนี้

1. วิตามินซี (Vitamin C)

เริ่มต้นด้วยวิตามินซี ซึ่งเป็นวิตามินที่ร่างกายจำเป็นต้องได้รับเป็นประจำทุกวัน เนื่องจากช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง โดยเฉพาะในช่วงที่มีความเครียดหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ นอกจากนี้ วิตามินซียังจำเป็นต่อการสร้างคอลลาเจนที่ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ทั้งยังช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้นด้วย

2. วิตามินดี (Vitamin D)

ในขณะเดียวกัน วิตามินดีก็มีบทบาทสำคัญต่อการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างและบำรุงกระดูกให้แข็งแรง อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และสำคัญเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยได้เจอกับแสงแดด นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยที่พบว่าวิตามินดีอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุนและภาวะซึมเศร้าได้อีกด้วย

3. วิตามินบีรวม (Vitamin B Complex)

วิตามินบีรวม ประกอบด้วยวิตามินบีหลายชนิดที่ทำงานร่วมกัน โดยช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง ทั้งยังมีบทบาทสำคัญในการเผาผลาญพลังงานจากอาหารที่เรารับประทาน ส่งผลให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าและมีพลังในการทำกิจกรรมต่าง ๆ

4. วิตามินอี (Vitamin E)

วิตามินอี คือสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงในการชะลอความเสื่อมของเซลล์ โดยจะช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระ ทั้งยังช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งและชะลอริ้วรอยก่อนวัยอันควร นอกจากนี้ วิตามินอียังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และยังช่วยเรื่องการไหลเวียนของเลือด ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด

5. วิตามินเอ (Vitamin A)

วิตามินเอ มีความสำคัญอย่างมากต่อการบำรุงสายตาและการมองเห็น โดยเฉพาะการมองเห็นในที่มืด อีกทั้งยังช่วยบำรุงผิวหนังและเยื่อบุต่าง ๆ ในร่างกายให้แข็งแรง ที่สำคัญไปกว่านั้น วิตามินเอยังมีบทบาทสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง และยังช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายด้วย

6. วิตามินเค (Vitamin K)

อีกหนึ่งวิตามินสำคัญคือ วิตามินเค ที่มีบทบาทสำคัญต่อการแข็งตัวของเลือด จึงช่วยป้องกันภาวะเลือดออกผิดปกติ นอกจากนี้ ยังมีส่วนสำคัญในการสร้างกระดูกและการทำงานของระบบหัวใจ ที่น่าสนใจคือ วิตามินเคยังช่วยดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่กระดูก ซึ่งช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้อีกทางหนึ่ง

7. โอเมก้า-3 (Fish Oil)

เมื่อพูดถึงไขมันที่ดีต่อสุขภาพ คงจะต้องรวมกรดไขมันโอเมก้า-3 เอาไว้ด้วย โดยเฉพาะ EPA และ DHA นับเป็นไขมันที่มีประโยชน์อย่างมาก โดยจะช่วยลดระดับไขมันในเลือดและความเสี่ยงของโรคหัวใจ อีกทั้งยังช่วยพัฒนาความจำและการทำงานของสมอง นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการลดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเรื้อรังหลายชนิด

8. แคลเซียม (Calcium)

เมื่อพูดถึงแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย แคลเซียมเป็นแร่ธาตุสำคัญที่เราควรได้รับอย่างเพียงพอ เพราะไม่เพียงช่วยสร้างและบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรงเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาทด้วย ที่สำคัญแคลเซียมยังช่วยให้เลือดแข็งตัวได้ดี พร้อมกับช่วยควบคุมการเต้นของหัวใจ และยังมีส่วนช่วยในการผลิตฮอร์โมนบางชนิด ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลดีต่อการทำงานของร่างกายโดยรวม

9. แมกนีเซียม (Magnesium)

แมกนีเซียมจะช่วยลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อและความเครียด จึงทำให้นอนหลับสบายและพักผ่อนได้อย่างมีคุณภาพ รวมถึงแมกนีเซียมยังมีบทบาทสำคัญในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมและวิตามินดีได้ดีขึ้นด้วย

10. โพรไบโอติก (Probiotics)

สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องระบบย่อยอาหารหรือต้องทานยาปฏิชีวนะบ่อย ๆ โพรไบโอติกนับเป็นอาหารเสริมที่มีประโยชน์ เนื่องจากช่วยรักษาสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ทั้งยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และกระตุ้นให้ร่างกายดูดซึมแร่ธาตุให้ดีขึ้นอีกด้วย

11. ซิงค์ (Zinc)

ซิงค์ เป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญต่อการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน โดยจะช่วยกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาวในการต่อสู้กับเชื้อโรค อีกทั้งยังมีบทบาทสำคัญในการสร้างโปรตีนและคอลลาเจนที่จำเป็นต่อร่างกาย รวมถึงช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยรักษาสมดุลของฮอร์โมนในร่างกายอีกด้วย

 

ปริมาณที่เหมาะสมในการกินวิตามินและอาหารเสริม

แม้ว่าวิตามินและอาหารเสริมแต่ละชนิดจะมีประโยชน์ต่อร่างกายในหลายด้านก็ตาม แต่การกินให้ได้ผลดีที่สุด จำเป็นต้องใส่ใจถึงปริมาณที่เหมาะสมด้วย เนื่องจากปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันจะแตกต่างกันไป ซึ่งขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งอายุ เพศ สภาพร่างกาย และความต้องการเฉพาะของแต่ละคน ดังนั้น จึงควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับตนเอง

ข้อควรระวังในการกินวิตามินและอาหารเสริม

นอกจากการรู้จักเลือกชนิดและปริมาณที่เหมาะสมแล้ว การกินวิตามินและอาหารเสริมให้ปลอดภัยยังมีสิ่งที่ต้องระวังอีกหลายข้อ ดังนี้

  • การกินวิตามินในปริมาณมากเกินไป
    การได้รับวิตามินมากเกินความจำเป็นอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ เช่น อาการท้องเสีย คลื่นไส้และอาเจียน ผื่นคันตามผิวหนัง หรือเกิดปฏิกิริยาไม่พึงประสงค์กับยาชนิดอื่น ๆ ดังนั้น จึงควรกินในปริมาณที่เหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์หรือตามที่ฉลากของผลิตภัณฑ์ระบุไว้การกินวิตามินเสริมควบคู่กับยา
  • การรับประทานวิตามินพร้อมกับยาอื่น ๆ
    อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาที่ไม่พึงประสงค์ได้ ดังนั้น ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเกี่ยวกับวิตามินที่กินอยู่ พร้อมทั้งสังเกตอาการผิดปกติเมื่อต้องกินวิตามินร่วมกับยา และที่สำคัญควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนเริ่มกินวิตามินชนิดใหม่เสมอ
  • การเลือกผลิตภัณฑ์
    การเลือกผลิตภัณฑ์วิตามินและอาหารเสริมที่มีคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญ โดยควรตรวจสอบเครื่องหมายรับรองจากองค์การอาหารและยา และเลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ อีกทั้งยังต้องสังเกตวันหมดอายุ รวมถึงสภาพของบรรจุภัณฑ์ว่าอยู่ในสภาพสมบูรณ์ก่อนเลือกซื้อทุกครั้ง

ผู้หญิงกำลังเทวิตามินและอาหารเสริมที่ควรกินทุกวันจากขวดลงบนมือ

สำหรับคนที่ไม่แน่ใจว่าอาหารเสริมเพื่อสุขภาพที่ตัวเองควรกินมีอะไรบ้าง และกำลังมองหาวิตามินและแร่ธาตุที่ดีต่อร่างกาย แนะนำให้มาเลือกซื้อได้ที่ The Selection แพลตฟอร์มสำหรับคนยุคใหม่ที่ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ โดยที่นี่มีทั้งอาหารเพื่อสุขภาพ ขนมเพื่อสุขภาพ และวิตามินบำรุงร่างกาย อีกทั้งทุกผลิตภัณฑ์ยังผ่านการคัดเลือกจากบุคลากรทางการแพทย์มาแล้ว พร้อมดีลส่วนลดพิเศษที่ช่วยให้คุณดูแลสุขภาพได้ครบถ้วนในราคาที่คุ้มค่า สนใจดูข้อมูลสินค้าหรือสั่งซื้อได้เลยที่ https://www.theselectionth.com/shop/

 

ข้อมูลอ้างอิง

 

ผิวแตกหน้าหนาว : วิธีแก้ไขและป้องกันง่าย ๆ

ลักษณะผิวแห้งลอกเป็นขุย ที่มักพบในช่วงหน้าหนาว

เมื่อลมหนาวมาทีไร หลาย ๆ คนมักต้องเผชิญกับปัญหาผิวแห้งคันและลอกเป็นขุย โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่สภาพอากาศเย็นและแห้ง ส่งผลให้ผิวขาดความชุ่มชื้น ยิ่งถ้าหากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อาจนำไปสู่ปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมาได้ เช่น อาการคัน ระคายเคือง หรือแม้แต่ผิวแตกจนเลือดออก เพื่อช่วยให้คุณดูแลผิวได้อย่างถูกวิธี เราขอชวนมาทำความเข้าใจถึงสาเหตุของอาการผิวแห้งลอกเป็นขุย และวิธีป้องกันในช่วงหน้าหนาวให้ผิวกลับมานุ่มชุ่มชื้นและมีสุขภาพดีอีกครั้ง

ลักษณะผิวแห้งลอกเป็นขุย ที่มักพบในช่วงหน้าหนาว

ปัญหาผิวแห้งลอกเป็นขุย

ภาวะที่ผิวมีลักษณะแห้งตึง แตกเป็นร่อง และลอกเป็นขุย เกิดจากการเสียสมดุลของสารสร้างความชุ่มชื้นในชั้นผิว ทำให้ต่อมไขมันใต้ผิวหนังผลิตน้ำมันออกมาน้อยกว่าปกติ ส่งผลให้ผิวไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้อย่างเพียงพอ นอกจากนี้ ปัญหาผิวแห้งยังอาจทำให้เกิดอาการคันและระคายเคืองได้อีกด้วย

สาเหตุที่ทำให้ผิวแห้งลอกเป็นขุย

  • การขาดน้ำและความชุ่มชื้นในชั้นผิว : การดื่มน้ำไม่เพียงพอจะทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นจากภายใน
  • สภาพอากาศหนาวและแห้ง : ฤดูหนาวมีความชื้นในอากาศต่ำ ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย
  • การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำลายน้ำมันธรรมชาติบนผิว : สบู่หรือครีมที่มีสารเคมีรุนแรงอาจขจัดน้ำมันตามธรรมชาติออกจากผิวหนัง
  • ปัญหาสุขภาพ : เช่น โรคผิวหนังแห้งหรือภูมิแพ้ ที่ส่งผลให้ผิวหนังแห้งมากกว่าปกติ

อาการที่ควรสังเกต

  • ผิวตึง แห้งกร้าน จนสามารถมองเห็นรอยเส้นบนผิวได้
  • ผิวแห้งและลอกเป็นขุย
  • ผิวคันและระคายเคือง
  • ผิวแตกและเลือดออกในกรณีที่ไม่ได้รับการดูแล

การสังเกตอาการเหล่านี้ จะช่วยให้สามารถแก้ปัญหาผิวแตกหน้าหนาวได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงขึ้น

 

วิธีแก้ผิวแห้งคัน เป็นขุยในช่วงหน้าหนาว

การดูแลผิวในช่วงฤดูหนาวจำเป็นต้องใช้ทั้งผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ควบคู่ไปกับการปรับพฤติกรรมการดูแลผิว เพื่อปกป้องผิวจากความแห้งตึงและคงความชุ่มชื้นเอาไว้

การบำรุงผิวด้วยมอยส์เชอไรเซอร์

  • เลือกใช้มอยส์เชอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นสูง : ใช้ครีมที่มีส่วนผสมของเซราไมด์ หรือเชียบัตเตอร์ เนื่องจากช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว
  • ทามอยส์เชอไรเซอร์ทันทีหลังอาบน้ำ : เพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นในชั้นผิวขณะที่ผิวยังชื้นอยู่

การปรับพฤติกรรมการดูแลผิว

  • หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อน : การอาบน้ำอุ่นจะช่วยให้รู้สึกสบายในช่วงหน้าหนาว แต่ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำที่ร้อนเกินไป เพราะจะทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย
  • ใช้สบู่หรือคลีนเซอร์ที่อ่อนโยน : เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ปราศจากน้ำหอมและสารเคมีที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เพื่อป้องกันการเกิดผิวแห้ง รวมถึงปัญหาผิวอื่น ๆ ที่อาจตามมา
  • สวมใส่เสื้อผ้าที่ช่วยปกป้องผิว : เลือกเสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้ายหรือผ้าที่ไม่ทำให้รู้สึกระคายเคือง และควรใส่ถุงมือหรือผ้าพันคอเพื่อป้องกันอากาศแห้งหากต้องเจอกับอากาศที่หนาวจัด
  • ดื่มน้ำอย่างเพียงพอ : แม้อากาศจะเย็น แต่ร่างกายยังต้องการน้ำเพื่อรักษาสมดุลความชุ่มชื้น จึงควรดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้ว

ผู้หญิงที่ได้ดูแลผิวหน้าหนาว ให้ผิวชุ่มชื้น มีสุขภาพดี

เคล็ดลับดูแลผิวหน้าหนาวในระยะยาวเพื่อป้องกันผิวแห้ง

เพื่อให้ผิวยังคงความชุ่มชื้นและสุขภาพดีในระยะยาว การดูแลผิวอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญ โดยมีเคล็ดลับดูแลผิวหน้าหนาวดี ๆ ที่อยากแนะนำดังนี้

  • บำรุงผิวหน้าด้วยการมาสก์ : ใช้แผ่นมาสก์หน้าที่มีส่วนผสมของมอยส์เชอไรเซอร์หรือสารสกัดจากธรรมชาติ เช่น ว่านหางจระเข้ สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
  • ใช้ผลิตภัณฑ์กันแดด : แม้ในฤดูหนาว แสงแดดในเมืองไทยก็ยังคงส่งผลต่อผิวของเรา จึงควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF อย่างน้อย 30 ขึ้นไป และค่า PA+++ สำหรับการปกป้องรังสียูวีเอหรือมากกว่า เพื่อให้การปกป้องผิวมีประสิทธิภาพในทุกวัน
  • ใช้ครีมบำรุงผิวตัวอย่างสม่ำเสมอ : โดยควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารช่วยป้องกันผิวแห้ง เช่น กรดไฮยาลูรอนิก หรือวิตามินอี เพื่อฟื้นฟูและปกป้องผิวในระยะยาว
  • หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีรุนแรง : เช่น แอลกอฮอล์ น้ำหอม และสีสังเคราะห์ เนื่องจากสามารถทำให้ผิวแห้งและระคายเคืองได้ง่าย
  • เสริมด้วยอาหารที่ช่วยบำรุงผิว : ควรเลือกรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน A, C, E และโอเมก้า 3 เช่น ผักใบเขียว ถั่ว และปลาแซลมอน เพื่อช่วยเสริมความแข็งแรงให้ผิวจากภายใน

ปัญหาผิวแห้งคันและลอกเป็นขุยในช่วงฤดูหนาวจะไม่เกิดขึ้น หากได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม บวกกับการปรับพฤติกรรมการดูแลผิว ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม และดูแลสุขภาพจากภายในอย่างการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ก็จะช่วยป้องกันปัญหาผิวเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังช่วยให้ผิวของคุณกลับมามีสุขภาพดีและเปล่งปลั่งอีกครั้งไม่ว่าจะฤดูไหน ๆ

สามารถติดตามเกร็ดความรู้สั้น ๆ เกี่ยวกับสุขภาพที่น่าสนใจเหล่านี้ได้ที่ The Selection แพลตฟอร์มสำหรับคนยุคใหม่ที่ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ เรามีบทความสุขภาพอัปเดตใหม่พร้อมแนะนำผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และสินค้าเพื่อสุขภาพต่าง ๆ พร้อมส่วนลดพิเศษเฉพาะคุณ คลิก https://www.theselectionth.com/shop/

แหล่งข้อมูล

The Art of Salads เข้าใจประโยชน์ผักสลัดก่อนเริ่มรับประทาน

คนรักสุขภาพเพลิดเพลินไปกับการกินผักสลัดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

รู้หรือไม่ ? ว่าผักสลัดมีประโยชน์มากกว่าที่คิด เพราะผักแต่ละชนิดไม่ได้มีดีแค่ความกรุบกรอบและสีสันที่ทำให้อาหารดูน่ากินมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย การเลือกผักสลัดให้เหมาะสมกับเป้าหมายการดูแลสุขภาพ จึงเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงในแบบที่คุณต้องการ

 

คนรักสุขภาพเพลิดเพลินไปกับการกินผักสลัดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

 

สลัด คืออะไร ?

สลัด (Salad) มาจากรากศัพท์ในภาษาละตินของคำว่า Herbasalta ที่หมายถึง ผักรสเค็ม นิยมปรุงด้วยเกลือ หรือน้ำมันมะกอกและน้ำส้มสายชู เป็นเมนูที่ทำได้ง่าย ๆ มีมาตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 14 แม้ว่าดั้งเดิมจะถูกจัดเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย (Appetizer) แต่ในปัจจุบันมักถูกเสิร์ฟเป็นอาหารจานแรก (Starter) และได้รับความนิยมในกลุ่มคนรักสุขภาพ ทั้งยังปรุงด้วยส่วนประกอบที่หลากหลายกว่าแต่ก่อน ยิ่งถ้าเราเลือกใส่วัตถุดิบที่เหมาะสมใน 1 จาน ก็จะทำให้เราได้รับสารอาหารที่สำคัญอย่างครบถ้วน

5 ผักสลัด ทานง่าย สำหรับผู้เริ่มต้น

การเลือกผักสลัดเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความอร่อย ทั้งยังช่วยให้ผู้ที่เริ่มกินเมนูสลัดกินได้ง่ายขึ้น สำหรับใครที่กำลังอยู่ในช่วงทดลองปรับเปลี่ยนการรับประทานอาหาร โดยหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น แต่ไม่รู้จะเลือกผักอะไรดี นี้คือ 5 ผักสลัดมากประโยชน์ที่หาซื้อได้ง่าย และได้คุณค่าทางอาหารแบบจัดเต็ม

  • กรีนโอ๊ก : ใบเขียวอ่อน มีรสชาติหวานกรอบ อ่อนโยน เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบผักรสขม
  • เรดโอ๊ก : ใบสีแดงเข้ม มีรสขมนิด ๆ แต่แฝงไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อร่างกาย
  • คอส : ใบแข็งและกรอบ มีเนื้อสัมผัสแน่น นิยมนำมาใช้เป็นฐานในการทำซีซาร์สลัด ทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามินซี โพแทสเซียม และกรดโฟลิก ช่วยเสริมสร้างระบบขับถ่ายที่ดี
  • บัตเตอร์เฮด : ใบเนียนนุ่ม เรียงซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ดูคล้ายดอกกุหลาบ อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี และใยอาหาร เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก ทั้งยังช่วยให้รู้สึกอิ่มนาน
  • ฟริลล์ไอซ์เบิร์ก : มีความกรอบเป็นพิเศษ นิยมใช้แทนผักกาดแก้ว เหมาะสำหรับคนชอบความกรุบกรอบ

 

กินสลัดช่วยอะไร รวมประโยชน์ผักสลัดที่ควรรู้ !

การรับประทานผักสลัดมีประโยชน์อย่างไร ? หลายคนอาจไม่รู้ว่าผักใบเขียวเหล่านี้เต็มไปด้วยคุณค่าที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพในหลากหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 5 คุณประโยชน์หลักที่จะได้รับอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ได้แก่

  • ช่วยควบคุมน้ำหนัก : เนื่องจากผักสลัดมีแคลอรีต่ำและมีไฟเบอร์สูง ช่วยให้อิ่มนาน ลดความอยากอาหารจุกจิก
  • เสริมระบบย่อยอาหาร : อย่างที่บอกไปว่า ผักสลัดมีไฟเบอร์สูง จึงช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ลดปัญหาการย่อยอาหาร และท้องผูกได้เป็นอย่างดี
  • บำรุงผิวพรรณและสายตา : วิตามิน A, C, E ในผักช่วยให้ผิวพรรณสดใส และบำรุงสายตา
  • เสริมภูมิคุ้มกัน : ผักสลัดหลาย ๆ ชนิดจะมีวิตามิน C และ K จึงช่วยสร้างความแข็งแรงให้ระบบภูมิคุ้มกัน
  • ลดระดับคอเลสเตอรอล : ผักบางชนิดมีสารช่วยลดไขมันในเลือด ส่งผลดีต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด

 

The Elements of a Perfect Salad กินสลัดหนึ่งจานให้ได้ประโยชน์ต้องมีอะไรบ้าง ?

การสร้างสรรค์ “สลัด” หนึ่งจานให้อิ่มอร่อยและได้ประโยชน์ครบถ้วน ควรประกอบไปด้วย 4 องค์ประกอบสำคัญ ดังนี้

จานสลัดที่อุดมไปด้วยผักสลัดและธัญพืชที่มีประโยชน์

 

  • ผักสลัด (Base): ปริมาณผักเทียบเท่า 1 ถ้วยตวง จะให้พลังงานประมาณ 25 กิโลแคลอรี แต่มีคาร์โบไฮเดรต ใยอาหารสูง แนะนำให้เลือกผักใบพลังงานต่ำ เช่น ผักกาดหอม ผักกาดแก้ว ผักโขม ผักคอส กรีนโอ๊ก เรดโอ๊ก
  • เนื้อสัตว์/โปรตีน/ผลไม้ (Body): นิยมเลือกใส่เนื้อสัตว์ไขมันต่ำ ซึ่งเป็นแหล่งของโปรตีน โดย 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 100 – 250 กิโลแคลอรี เช่น อกไก่ เนื้อหมู เนื้อปลาทูน่า เนื้อปลาแซลมอน หรือไข่ต้ม 1 ฟอง ให้พลังงาน 70 กิโลแคลอรี อาจเสริมด้วยผลไม้ชนิดต่าง ๆ ใส่ในจานสลัดเพื่อให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วน
  • ธัญพืช (Garnish): วัตถุดิบตกแต่งทำให้น่ากินมากขึ้น ช่วยเพิ่มไขมันดีและวิตามิน นิยมใส่ประเภทถั่วและธัญพืช เช่น เมล็ดงา เมล็ดทานตะวัน อัลมอนด์ ถั่วแดง ลูกเดือย คีนัว เมล็ดข้าวโพด โดยไขมัน 1 กรัม จะให้พลังงานประมาณ 10 กิโลแคลอรี
  • น้ำสลัด (Dressing): น้ำสลัดทั้งแบบน้ำใสและแบบครีมข้น เลือกใส่ตามความชอบ หากเป็นน้ำสลัดครีมอาจมีพลังงานสูงถึง 400 กิโลแคลอรี แต่ควรเลือกใส่น้ำสลัดในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะอาจมีน้ำตาลและโซเดียมสูงได้

 

รู้วิธีเลือกวัตถุดิบในการจัดจานสลัดให้ได้คุณค่าสารอาหารครบถ้วนกันแล้ว กินสลัดครั้งต่อไป ลองจัดจานตามที่แนะนำ แต่อย่าซีเรียสเรื่องปริมาณพลังงานที่ได้รับมากจนเกินไป แค่เพิ่มความใส่ใจในการเลือกวัตถุดิบให้มากขึ้น รับรองว่าอิ่มท้องแบบสุขภาพดีแน่นอน

และสำหรับใครที่มองหาร้านขายของเพื่อสุขภาพ เพราะสนใจอยากลองทานสลัดแบบคนรักสุขภาพ สามารถมาเลือกซื้อผักสลัดออร์แกนิก น้ำสลัดเพื่อสุขภาพ และอาหารสำหรับสาย Healthy ที่คัดสรรมาแล้วว่ามีประโยชน์ รวมถึงมีโภชนาการแบบครอบคลุมได้ที่ The Selection แพลตฟอร์มสำหรับคนยุคใหม่ที่รวมสินค้าและอาหารเพื่อสุขภาพที่คัดสรรโดยบุคลากรทางการแพทย์เอาไว้มากมาย พร้อมส่วนลดพิเศษเฉพาะคุณ คลิก https://www.theselectionth.com/product-category/healthyfooddrinks/

 

แหล่งข้อมูล

ผักสลัด 10 ชนิดสุดฮิต กินดีมีประโยชน์สำหรับสายเฮลธ์ตี้. สืบค้นเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2567 จาก https://urban-farming.co.th/ผักสลัด-10-ชนิดสุดฮิต/

Anything Health : รวมไว้ให้แล้วกับ 5 แอปพลิเคชั่นตัวช่วยที่ควรมีติด Smartphone เพื่อช่วยเติมเต็ม Life style ของคุณ

                                                                                                                                                  Anything Health                                                รวมไว้ให้แล้วกับ 5 แอปพลิเคชั่นตัวช่วยที่ควรมีติด Smartphone เพื่อช่วยเติมเต็ม Life style ของคุณ                                      ตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา นับเป็นปีแห่งความเครียดที่เกาะกินชีวิตเราเพิ่มมากขึ้นจนบางทีความเครียดเหล่านั้นทำให้เราป่วยได้โดยที่เราไม่รู้ตัว ตัวช่วยแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีที่อยู่ในมือของคุณ อย่าง Smartphone และแอปพลิเคชั่นต่างๆ ที่จะเป็นอีกเครื่องมือในการช่วยเหลือ พร้อมให้คำแนะนำการใช้ชีวิตรอบด้าน โดยวันนี้เราจะมาแนะนำ 5 แอปพลิเคชั่นที่น่าสนใจและควรมีติดไว้ในโทรศัพท์มือถือ

“5 Application ที่น่าสนใจและควรมีติดไว้ใน Smartphone”

 Fabulous (เหมาะกับคนที่อยากตั้งเป้าหมายในชีวิต )                                                                                 • สามารถกำหนดเป้าหมายพื้นฐานของชีวิตคุณ รวมถึงเป้าหมายที่ต้องการจะพัฒนา 
• ช่วยจัดตารางเวลาในแต่ละวันของเรา ให้เป็นไปตามหลักการใช้ชีวิตที่ดี
• การแจ้งเตือนให้ออกกำลังกายวันละ 7 นาที รวมถึงการแจ้งเตือนให้เรากินน้ำอย่างน้อยวันละ 3 ลิตร 
• เตือนการรับประทานอาหารเช้า และมีเมนูอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพให้เลือกอ่าน 
• เตือนให้ลดการใช้งานสมาร์ทโฟนที่มากเกินไป 
• เตือนให้พักผ่อน เข้านอนตามเวลาที่เหมาะสม พร้อมคำนวณการนอนหลับ ไปจนถึงเวลาตื่นนอน เพื่อให้เราได้พักผ่อนอย่างเต็มที่และสดชื่นพร้อมเริ่มวันใหม่
• ช่วยกระตุ้นให้เราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทุกอย่างนี้ไม่ยากเลย ถ้าเราแบ่งเวลาให้เหมาะสม แล้วจะพบว่า Work Life Balance ในชีวิตคืออะไร
MyFitnessPal (เหมาะกับคนที่กำลังอยากลดน้ำหนัก)
• สามารถบันทีกเมนูอาหารที่รับประทานในแต่ละวัน 
• สามารถบันทึกน้ำหนักตัว ขนาดของแขน ขา รอบเอว สัดส่วนต่างๆ ของร่างกาย 
• ช่วยวิเคราะห์จำนวนก้าวที่เราเดินในแต่ละวันได้ 
• คำนวณแคลอรี่จากการทานอาหาร และการออกกำลังกาย
• บอกปริมาณสารอาหารที่ต้องการรับต่อวันได้ด้วยตนเอง ซึ่งเหมาะสำหรับสายควบคุมการกินอย่างเคร่งครัด
• สามารถใช้งานกับเว็บเบราเซอร์ผ่านทาง myfitnesspal.com ซึ่งสามารถซิงค์ข้อมูลข้ามอุปกรณ์กันได้ทั้งหมด
Headspace (เหมาะกับคนที่ต้องการฝึกสมาธิ)
• ช่วยปรับการใช้ชีวิตอย่างมีสมาธิ
• เรียนรู้วิธีการปรับการหายใจขั้นพื้นฐาน
• สามารถแบ่งเป็นคอร์สในการเริ่มต้นฝึกสมาธิขั้นพื้นฐานได้
• มีคอร์สให้เลือกฝึกการทำสมาธิที่ครอบคลุม ตั้งแต่ 5 นาที ถึง 2 ชั่วโมง
• มีตัวช่วยเป็นผู้บรรยายในการทำสมาธิ ไม่ให้วอกแวก
• ช่วยแนะนำเทคนิค Body Scanning เป็นเทคนิคที่ช่วยให้เรากำหนดลมหายใจไปที่ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
• สามารถเปิดฟังได้ที่ทุก แม้จะอยู่ในสถานะออฟไลน์
Daylio (เหมาะกับคนที่ต้องการฝึกสมาธิ)
• Mood Tracker ที่ช่วยให้เราติดตามอารมณ์ของตัวเองได้ในแต่ละวัน
• สามารถบันทึกอารมณ์ และความรู้สึกของคุณแบบรายวัน
• ช่วยบันทึกกิจกรรมที่มีผลกับความรู้สึกของคุณ เพื่อให้สามารถเข้าใจสภาพจิตใจของตนเอง และปัจจัยที่ส่งผลต่อความรู้สึกของคุณในทุกช่วงเวลา
• เลือกอารมณ์ที่ตรงกับความรู้สึกในขณะนั้นให้มากที่สุด พร้อมเลือกกิจกรรมหรือเขียนโน้ตสั้นๆ ว่าทำไมเราจึงรู้สึกอย่างนั้น
• สามารถเก็บสถิติต่างๆ โดยอัตโนมัติ ทำให้กลับมาเช็คได้เสมอว่าในแต่ละวัน แต่ละเดือน ระดับอารมณ์ของเราเป็นอย่างไร
• ช่วยวิเคราะห์ได้ว่าตนเองเป็นคนที่มีอารมณ์แบบไหน และอะไรที่เป็นปัจจัยส่งเสริมอารมณ์เหล่านั้น
Health UP Application (เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสะดวกสบายในการพบแพทยจากโรงพยาบาลพญาไท – เปาโล)         
• แอปพลิเคชั่นนี้ถูกออกแบบให้เข้าถึงการบริการทางด้านสุขภาพอย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น
• เชื่อมโยงด้วยระบบที่ปรึกษาสุขภาพออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง
• สามารถแจ้งความต้องการประเภทต่างๆ ได้หลากหลายแบบ และยังคงความเป็นส่วนตัว ก่อนเข้ามารับบริการที่โรงพยาบาล
• แยกหมวดบริการกลุ่มต่างๆ เช่น นัดหมายแพทย์ นัดพบแพทย์ประจำตัวของคุณแบบออนไลน์
• สามารถสั่งจอง หรือซื้อแพ็คเกจตรวจสุขภาพ ดูผลตรวจสุขภาพ และผลแลปต่างๆ รวมถึงบริการด้านสุขภาพอื่นๆ