ปรับชีวิตวิถีใหม่เพื่ออยู่ร่วมกับโรคระบาด อาจจะเป็นสิ่งที่ หลายคนต่างก็คาดการณ์กันไว้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวัน การใช้ชีวิต ในที่ทำงาน ณ ปัจจุบัน ได้มีการยกเลิกมาตรการล็อคดาวน์ และเปิดพรมแดนให้ทุกคนสามารถเดินทางไปในพื้นที่ต่างๆ ได้มากขึ้น ทำให้หลายคนเริ่มที่จะปรับตัว และใช้ชีวิตกันอย่างปกติ ถือว่า เป็นอีกหนึ่งก้าวที่สำคัญต่อการปรับเปลี่ยนชีวิตวิถีใหม่ของพวกเราทุกคน แต่ก็ใช่ว่าทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม เพราะการออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านเราทุกคนต่างก็ต้องเผชิญกับความเสี่ยงอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเรียนรู้ที่จะปรับชีวิตวิถีใหม่ และแนวทางต่างๆ เพื่ออยู่ร่วมกับโควิดต่อไป
หลังจากที่ทุกอย่างเริ่มกลับมาเป็นปกติ เราสามารถออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านได้มากขึ้น และแน่นอนว่า เราไม่สามารถเลี่ยงการพบปะผู้คนได้ อาจนำมาซึ่งความวิตกกังวลคิดมาก เสี่ยงก่อให้เกิดปัญหาทางด้านสุขภาพจิตตามมา แต่ความวิตกกังวลนั้นเองก็ยังมีข้อดีที่จะช่วยเปลี่ยนความคิดที่ว่า “เปลี่ยนความวิตกกังวล ให้เป็นเกราะป้องกัน” เช่น เมื่อเราไปยังสถานที่สุ่มเสี่ยง เราจะเกิดความวิตกกังวลขึ้นมาว่า เราจะได้รับเชื้อหรือไม่ ทำให้เราคิดถึงการระวังป้องกันตัวจาก โควิด เพียงเท่านี้คุณสามารถลดความวิตกกังวลได้ เพราะหากคุณสามารถจัดการกับความกังวลเหล่านี้ได้ จะไม่เพียงช่วยให้ตัวคุณเองปลอดภัย แต่ยังช่วยให้ คนรอบตัวปลอดภัยอีกด้วย
เพราะวันเวลาไม่เคยหยุดรอใคร… โรคระบาดพรากเวลาของเราไปเกือบ 3 ปี ถึงเวลาแล้วที่เราต่างก็ต้องกลับไปใช้ชีวิต เอาเวลาที่เสียไปคืนมา สิ่งที่เกิดขึ้น อาจทำให้เรานั้นหมดไฟในการดำเนินชีวิต ในการทำงาน รวมถึงเป้าหมายในอนาคต โดยเราขอเสนอ การจัดตารางเวลา 8 : 8 : 8 เพื่อสร้างสมดุลให้กับชีวิตและการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพโดยมีหลักการแบ่งเวลา ดังนี้
8 ชั่วโมง สำหรับการทำงาน
8 ชั่วโมง สำหรับการผ่อนคลายหรือนันทนาการ เช่น ทำงานอดิเรก ใช้เวลาอยู่กับคนที่คุณรัก
8 ชั่วโมง สำหรับการนอนหลับพักผ่อน
มนุษย์ทุกคนมีความเคยชินกับการอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม แต่เมื่อเกิดสถานการณ์โควิด ทำให้รูปแบบการใช้ชีวิตของพวกเราเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เราต้องเว้นระยะห่างเพื่อควบคุมโรค และสิ่งที่ทดแทนความเหงาของเราในสถานการณ์เช่นนี้คือ สื่อโซเชียลออนไลน์ต่างๆ ที่สามารถสร้างความบันเทิงใจให้คลายเหงาได้ แต่อย่างไรก็ตาม การใช้สื่อออนไลน์มีทั้งด้านที่ดีและไม่ดี หากเราใช้งานมากเกินไปหรือใช้ผิดวิธี อาจจะก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา เพราะฉะนั้นอย่าลืมปรับความสมดุลในชีวิต แบ่งเวลาใช้ชีวิตแบบออนไลน์ ออฟไลน์ กับเพื่อนฝูงและคนที่คุณรักกันอย่างเหมาะสม
โรคระบาดที่เกิดขึ้นกระทบกับการใช้ชีวิต และสร้างปัญหาตามมาอย่างมากมาย เช่น เศรษฐกิจ รายได้ การทำงานและการใช้ชีวิต ทำให้กระทบต่อความรู้สึก ความเครียด และสภาพจิตใจ อาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าในอนาคตได้ วิธีที่ดีที่สุดในการรับมือกับความรู้สึกเหล่านี้คือการรับรู้ตัวเองว่ารู้สึกเช่นไร เพื่อเรียนรู้และทำความเข้าใจที่มาของความรู้สึกเหล่านั้น ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะสาเหตุใด เมื่อคุณปล่อยให้ตัวเองเข้าใจความรู้สึกทั้งหมดที่เกิดขึ้น คุณก็จะยอมรับ และก้าวผ่านความรู้สึกนี้ไปได้อย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้นอย่าลืมสังเกตความรู้สึกและจัดการความรู้สึกของตัวเองอยู่เสมอๆ
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่เราไม่เคยคาดคิดมาก่อน การยอมรับได้เร็วก็จะสามารถปรับตัวได้เร็ว ทำให้มองเห็นโอกาสหรือแนวทางการแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที ดังนั้นการหาความรู้เพิ่มเติม การพัฒนาทักษะใหม่ๆ นับเป็นเรื่องที่ดีต่อตนเอง อีกทั้งยังสามารถส่งต่อเป็นความรู้ให้กับผู้อื่นได้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์อีกด้วย แม้แต่ละคนจะแตกต่างกันแต่ก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้ในพื้นที่แห่งความเข้าใจ ฉะนั้นอย่าลืมสร้างสมดุลทางความคิด ใช้ชีวิตอยู่บน ความปลอดภัย และเข้าใจซึ่งกันและกันท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้
ช้อปสินค้าเพิ่มน้ำนมและบำรุงร่างกายอื่นๆ ที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ
ดูทั้งหมด
เฉพาะสมาชิก LINE The Selection รับส่วนลด 10% เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ Lavita, BREA, OWA และ Phymon
PLAN FOR KIDS
฿290.00
Baby Breeze สติกเกอร์หอมแดง
฿92.00
BLACK BEAR Almond Butter และ Black Truffle Almond
฿249.00
Druide Biolove DRUIDE BioLove Relaxing Foaming Bath (250ml)
฿1,250.00
Druide Biolove DRUIDE BioLove Sunscreen SPF 30
฿1,490.00
Druide Biolove ครีมออร์แกนิกบำรุงผิวหน้า สำหรับเด็ก คุณแม่ตั้งครรภ์และผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย
฿790.00
Horiz GON Collection by HORIZ CO.
฿3,300.00