การใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบในทุกวันนี้ อาจทำให้เราละเลยการดูแลสุขภาพไป โดยเฉพาะในเรื่องของการกินอาหารที่ไม่เป็นเวลา รวมไปถึงการเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ด้วยเหตุนี้ ผลิตภัณฑ์วิตามินที่มีอยู่ในท้องตลาดจึงกลายเป็นตัวช่วยสำคัญในการเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรงของคนยุคใหม่ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะเลือกผลิตภัณฑ์วิตามินใด ๆ มาช่วยเสริมเรื่องสุขภาพก็ตาม เราควรรู้ถึงอาหารเสริมที่ควรกิน และวิธีการกินที่ถูกต้องเสียก่อน ทั้งนี้เพราะวิตามินแต่ละชนิดตอบโจทย์การดูแลสุขภาพที่แตกต่างกันออกไป
Table of Contents
ทำไมต้องกินวิตามินหรืออาหารเสริม ?
เหตุผลสำคัญที่เราควรกินวิตามินมีดังนี้
- ชดเชยปริมาณสารอาหารที่ขาดหายไป
การกินวิตามินช่วยชดเชยสารอาหารที่ร่างกายไม่ได้รับอย่างเพียงพอ เพราะในแต่ละวันเรามักเลือกกินตามความสะดวกมากกว่าคุณค่าทางโภชนาการ ดังนั้น วิตามินจึงเป็นตัวช่วยที่เข้ามาเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปนี้ - เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
นอกเหนือจากนั้น วิตามินยังช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ทั้งนี้เพราะวิตามินหลายชนิดมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งไม่เพียงช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลายเท่านั้น แต่ยังทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้นด้วย - ชะลอความเสื่อมของเซลล์
ในขณะเดียวกัน วิตามินบางชนิดยังช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย ด้วยการต่อสู้กับอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุให้เซลล์เสื่อมเร็วขึ้น ทำให้เซลล์ต่าง ๆ ยังคงแข็งแรงและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ - บำรุงและกระตุ้นการทำงานของสมอง
ประโยชน์สำคัญที่ไม่แพ้เรื่องอื่น ๆ คือ การรับประทานวิตามินมีส่วนช่วยเรื่องสมองและอารมณ์ เนื่องจากสารอาหารบางอย่างจำเป็นต่อการสร้างสารสื่อประสาทที่ควบคุมอารมณ์ ซึ่งจะช่วยให้เรารู้สึกสดชื่น และทำให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
กินวิตามินอะไรดี ? แนะนำ 11 วิตามินและอาหารเสริมที่ควรกินทุกวัน
การเลือกวิตามินและอาหารเสริมที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลสุขภาพ สำหรับวิตามินแนะนำที่อยากให้กินเสริมในชีวิตประจำวันมีดังนี้
1. วิตามินซี (Vitamin C)
เริ่มต้นด้วยวิตามินซี ซึ่งเป็นวิตามินที่ร่างกายจำเป็นต้องได้รับเป็นประจำทุกวัน เนื่องจากช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง โดยเฉพาะในช่วงที่มีความเครียดหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ นอกจากนี้ วิตามินซียังจำเป็นต่อการสร้างคอลลาเจนที่ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ทั้งยังช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้นด้วย
2. วิตามินดี (Vitamin D)
ในขณะเดียวกัน วิตามินดีก็มีบทบาทสำคัญต่อการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างและบำรุงกระดูกให้แข็งแรง อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และสำคัญเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยได้เจอกับแสงแดด นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยที่พบว่าวิตามินดีอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุนและภาวะซึมเศร้าได้อีกด้วย
3. วิตามินบีรวม (Vitamin B Complex)
วิตามินบีรวม ประกอบด้วยวิตามินบีหลายชนิดที่ทำงานร่วมกัน โดยช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง ทั้งยังมีบทบาทสำคัญในการเผาผลาญพลังงานจากอาหารที่เรารับประทาน ส่งผลให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าและมีพลังในการทำกิจกรรมต่าง ๆ
4. วิตามินอี (Vitamin E)
วิตามินอี คือสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงในการชะลอความเสื่อมของเซลล์ โดยจะช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระ ทั้งยังช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งและชะลอริ้วรอยก่อนวัยอันควร นอกจากนี้ วิตามินอียังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และยังช่วยเรื่องการไหลเวียนของเลือด ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด
5. วิตามินเอ (Vitamin A)
วิตามินเอ มีความสำคัญอย่างมากต่อการบำรุงสายตาและการมองเห็น โดยเฉพาะการมองเห็นในที่มืด อีกทั้งยังช่วยบำรุงผิวหนังและเยื่อบุต่าง ๆ ในร่างกายให้แข็งแรง ที่สำคัญไปกว่านั้น วิตามินเอยังมีบทบาทสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง และยังช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายด้วย
6. วิตามินเค (Vitamin K)
อีกหนึ่งวิตามินสำคัญคือ วิตามินเค ที่มีบทบาทสำคัญต่อการแข็งตัวของเลือด จึงช่วยป้องกันภาวะเลือดออกผิดปกติ นอกจากนี้ ยังมีส่วนสำคัญในการสร้างกระดูกและการทำงานของระบบหัวใจ ที่น่าสนใจคือ วิตามินเคยังช่วยดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่กระดูก ซึ่งช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้อีกทางหนึ่ง
7. โอเมก้า-3 (Fish Oil)
เมื่อพูดถึงไขมันที่ดีต่อสุขภาพ คงจะต้องรวมกรดไขมันโอเมก้า-3 เอาไว้ด้วย โดยเฉพาะ EPA และ DHA นับเป็นไขมันที่มีประโยชน์อย่างมาก โดยจะช่วยลดระดับไขมันในเลือดและความเสี่ยงของโรคหัวใจ อีกทั้งยังช่วยพัฒนาความจำและการทำงานของสมอง นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการลดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเรื้อรังหลายชนิด
8. แคลเซียม (Calcium)
เมื่อพูดถึงแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย แคลเซียมเป็นแร่ธาตุสำคัญที่เราควรได้รับอย่างเพียงพอ เพราะไม่เพียงช่วยสร้างและบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรงเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาทด้วย ที่สำคัญแคลเซียมยังช่วยให้เลือดแข็งตัวได้ดี พร้อมกับช่วยควบคุมการเต้นของหัวใจ และยังมีส่วนช่วยในการผลิตฮอร์โมนบางชนิด ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลดีต่อการทำงานของร่างกายโดยรวม
9. แมกนีเซียม (Magnesium)
แมกนีเซียมจะช่วยลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อและความเครียด จึงทำให้นอนหลับสบายและพักผ่อนได้อย่างมีคุณภาพ รวมถึงแมกนีเซียมยังมีบทบาทสำคัญในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมและวิตามินดีได้ดีขึ้นด้วย
10. โพรไบโอติก (Probiotics)
สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องระบบย่อยอาหารหรือต้องทานยาปฏิชีวนะบ่อย ๆ โพรไบโอติกนับเป็นอาหารเสริมที่มีประโยชน์ เนื่องจากช่วยรักษาสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ทั้งยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และกระตุ้นให้ร่างกายดูดซึมแร่ธาตุให้ดีขึ้นอีกด้วย
11. ซิงค์ (Zinc)
ซิงค์ เป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญต่อการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน โดยจะช่วยกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาวในการต่อสู้กับเชื้อโรค อีกทั้งยังมีบทบาทสำคัญในการสร้างโปรตีนและคอลลาเจนที่จำเป็นต่อร่างกาย รวมถึงช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยรักษาสมดุลของฮอร์โมนในร่างกายอีกด้วย
ปริมาณที่เหมาะสมในการกินวิตามินและอาหารเสริม
แม้ว่าวิตามินและอาหารเสริมแต่ละชนิดจะมีประโยชน์ต่อร่างกายในหลายด้านก็ตาม แต่การกินให้ได้ผลดีที่สุด จำเป็นต้องใส่ใจถึงปริมาณที่เหมาะสมด้วย เนื่องจากปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันจะแตกต่างกันไป ซึ่งขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งอายุ เพศ สภาพร่างกาย และความต้องการเฉพาะของแต่ละคน ดังนั้น จึงควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับตนเอง
ข้อควรระวังในการกินวิตามินและอาหารเสริม
นอกจากการรู้จักเลือกชนิดและปริมาณที่เหมาะสมแล้ว การกินวิตามินและอาหารเสริมให้ปลอดภัยยังมีสิ่งที่ต้องระวังอีกหลายข้อ ดังนี้
- การกินวิตามินในปริมาณมากเกินไป
การได้รับวิตามินมากเกินความจำเป็นอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ เช่น อาการท้องเสีย คลื่นไส้และอาเจียน ผื่นคันตามผิวหนัง หรือเกิดปฏิกิริยาไม่พึงประสงค์กับยาชนิดอื่น ๆ ดังนั้น จึงควรกินในปริมาณที่เหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์หรือตามที่ฉลากของผลิตภัณฑ์ระบุไว้การกินวิตามินเสริมควบคู่กับยา - การรับประทานวิตามินพร้อมกับยาอื่น ๆ
อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาที่ไม่พึงประสงค์ได้ ดังนั้น ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเกี่ยวกับวิตามินที่กินอยู่ พร้อมทั้งสังเกตอาการผิดปกติเมื่อต้องกินวิตามินร่วมกับยา และที่สำคัญควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนเริ่มกินวิตามินชนิดใหม่เสมอ - การเลือกผลิตภัณฑ์
การเลือกผลิตภัณฑ์วิตามินและอาหารเสริมที่มีคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญ โดยควรตรวจสอบเครื่องหมายรับรองจากองค์การอาหารและยา และเลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ อีกทั้งยังต้องสังเกตวันหมดอายุ รวมถึงสภาพของบรรจุภัณฑ์ว่าอยู่ในสภาพสมบูรณ์ก่อนเลือกซื้อทุกครั้ง
สำหรับคนที่ไม่แน่ใจว่าอาหารเสริมเพื่อสุขภาพที่ตัวเองควรกินมีอะไรบ้าง และกำลังมองหาวิตามินและแร่ธาตุที่ดีต่อร่างกาย แนะนำให้มาเลือกซื้อได้ที่ The Selection แพลตฟอร์มสำหรับคนยุคใหม่ที่ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ โดยที่นี่มีทั้งอาหารเพื่อสุขภาพ ขนมเพื่อสุขภาพ และวิตามินบำรุงร่างกาย อีกทั้งทุกผลิตภัณฑ์ยังผ่านการคัดเลือกจากบุคลากรทางการแพทย์มาแล้ว พร้อมดีลส่วนลดพิเศษที่ช่วยให้คุณดูแลสุขภาพได้ครบถ้วนในราคาที่คุ้มค่า สนใจดูข้อมูลสินค้าหรือสั่งซื้อได้เลยที่ https://www.theselectionth.com/shop/
ข้อมูลอ้างอิง
- What Vitamins You Should Take Is a Personalized Decision. สืบค้นเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2568 จาก https://health.clevelandclinic.org/which-vitamins-should-you-take.
- Vitamins and Minerals: How Much Should You Take?. สืบค้นเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2568 จาก https://www.webmd.com/vitamins-and-supplements/vitamins-minerals-how-much-should-you-take.
- The best foods for vitamins and minerals. สืบค้นเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2568 จาก https://www.health.harvard.edu/staying-healthy/the-best-foods-for-vitamins-and-minerals.
“The Selection” แพลตฟอร์มที่คัดสรรผลิตภัณฑ์และบริการจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ
ช้อปสินค้าเพิ่มน้ำนมและบำรุงร่างกายอื่นๆ ที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ
ดูทั้งหมด
เฉพาะสมาชิก LINE The Selection รับส่วนลด 10% เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ Lavita, BREA, OWA และ Phymon
JOY RIDE บริการพาผู้สูงวัยไปหาหมอแทนครอบครัว
฿1,800.00
KIN ORIGIN REHAB CENTER โปรแกรมฝากดูแลผู้สูงอายุ
฿35,000.00
PLANTANIQ@ Moisturizing Shower Gel
฿359.00
PLANTANIQ@ Dishwashing Liquid
฿189.00
PATOM ORGANIC LIVING Lime & Lemongrass Cleansing Shower Gel Anti-Bacterial
฿390.00
PATOM ORGANIC LIVING Lime & Lemongrass Cleansing Shampoo Anti-Bacterial
฿390.00
TALON – Rebecca Lim’s by TALON รองเท้าสุขภาพ / รองเท้าสั่งตัดตามอาการ
฿3,490.00