Growing Together : หน้าที่สำคัญของ จุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ ในนมแม่

 
 
 

หน้าที่สำคัญของจุลินทรีย์ “โพรไบโอติกส์” ในนมแม่

รู้หรือไม่ว่าในน้ำนมแม่ มีจุลินทรีย์มีประโยชน์

โพรไบโอติกส์อยู่ ซึ่งช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน  ระบบหายใจ ระบบทางเดินอาหาร และสมองให้ดีขึ้นสำหรับลูกน้อยด้วย

 

 

โพรไบโอติกส์ในนมแม่ ดีกับลูกน้อยอย่างไร

เมื่อแรกลืมตาดูโลก ทารกทุกคนล้วนต้องการจุลินทรีย์เพื่อค่อยๆ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง โดยทารกที่คลอดธรรมชาติจะได้รับจุลินทรีย์กลุ่มแรก      จากช่องคลอดของมารดา จากนั้นร่างกายเค้าก็จะได้รู้จักกับจุลินทรีย์ต่างๆ เพิ่มขึ้นจากการได้รับนมแม่ จนไปถึงอาหารเสริมตามวัยหลัง 6 เดือน นมเสริมตามวัยสำหรับเด็กอายุ 1 ปี รวมทั้งมื้ออาหารที่รับประทานเมื่อค่อยๆ เติบโตขึ้น ที่เป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการตามช่วงวัยที่เหมาะสม

 

 

บทบาทที่สำคัญของจุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ (ร่วมกับพรีไบโอติกส์) จากนมแม่ต่อลูกน้อย

• การเพิ่มปริมาณของจุลินทรีย์ประจำถิ่นในระบบทางเดินอาหาร และเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยระบบทางเดินอาหารนั้นจัดว่าเป็นระบบอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกันที่ใหญ่ที่สุด เพราะเป็นเสมือนด่านหน้าที่รับสารต่างๆ จากภายนอกเข้าสู่ร่างกาย (ในรูปของอาหาร)

• การสร้างสภาวะให้ระบบทางเดินอาหารมีปริมาณของจุลินทรีย์ที่สมดุลในทารกจึงช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อต่างๆ ได้ ช่วยต่อต้านเชื้อก่อโรค บรรเทาอาการท้องผูก ท้องเสีย เพิ่มการสร้างสารที่ช่วยลดการอักเสบและสารช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน

• มีการศึกษาที่พบว่าโพรไบโอติกส์ที่พบในนมแม่ อาจเกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคภูมิแพ้ในทารกอีกด้วย1,2,3

 

 

 

ตัวอย่างโพรไบโอติกส์ในนมแม่ที่พบว่ามีประโยชน์ต่อลูกน้อย ก็เช่นจุลินทรีย์ในกลุ่ม     แลคโตบาซิลลัสอย่าง LPR ซึ่งเป็นจุลินทรีย์สายพันธ์ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง เพราะมีงานวิจัยทางการแพทย์รองรับมากที่สุด ซึ่งนอกจากจะมีประโยชน์ต่อระบบ      ภูมิคุ้มกันแล้ว ยังมีการศึกษาพบว่า LPR มีผลดีต่อระบบทางเดินหายใจของเด็ก      (ศึกษาในเด็กอายุ 1-7 ปี) โดยช่วยลดการเจ็บป่วยด้วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน เช่น โรคหวัด น้ำมูกไหล ซึ่งพบได้บ่อยในเด็กที่เริ่มเข้าโรงเรียน นอกจากนั้นยังมีการศึกษา  พบว่าจุลินทรีย์กลุ่มดังกล่าวอาจมีผลดีต่อการทำงานของสมองผ่านการมีส่วนร่วม          ในการสร้างสารสื่อประสาทในสมองอีกด้วย9,10

 

จะเห็นได้ว่าประโยชน์ของนมแม่ ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งของอาหารให้ลูกน้อยเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวสร้างเกราะป้องกันให้เค้ามีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ลูกควรได้รับนมแม่อย่างเดียว ตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 เดือน และควรได้รับนมแม่ต่อเนื่องไปจนลูกอายุ 2 ปี หรือนานกว่านั้น ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO)6 เพื่อให้ลูกน้อย  ยังคงได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์จากนมแม่อยู่ค่ะ

 

เอกสารอ้างอิง
1. Sepehri, S., Khafipour, E., & Azad, M. B. (2018). The Prebiotic and Probiotic Properties of Human Milk: Implications for Infant Immune Development and Pediatric Asthma. Frontiers in pediatrics, 6, 197. https://doi.org/10.3389/fped.2018.00197
2. Lara-Villoslada, F., Olivares, M., Sierra, S., Miguel Rodríguez, J., Boza, J., & Xaus, J. (2007). Beneficial effects of probiotic bacteria isolated from breast milk. British Journal of Nutrition, 98(S1), S96-S100. doi:10.1017/S0007114507832910
3. Sestito, S., D’Auria, E., Baldassarre, M. E., Salvatore, S., Tallarico, V., Stefanelli, E., Tarsitano, F., Concolino, D., & Pensabene, L. (2020). The Role of Prebiotics and Probiotics in Prevention of Allergic Diseases in Infants. Frontiers in pediatrics, 8, 583946. https://doi.org/10.3389/fped.2020.583946 Moossavi, S., Miliku, K.,
4. Hojsak, I., Snovak, N., Abdovic, S., Szajewska, H., Mišak, Z., & Kolaček, S. (2010). Lactobacillus GG in the prevention of gastrointestinal and respiratory tract infections in children who attend day care centers: a randomized, double-blind, placebo-controlled trial. Clinical nutrition, 29 3, 312-6.
5. Strandwitz P. (2018). Neurotransmitter modulation by the gut microbiota. Brain research, 1693(Pt B), 128–133. https://doi.org/10.1016/j.brainres.2018.03.015
6. World Health Organization. (2021). infant and young child feeding. Retrieved from https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/infant-and-young-child-feeding
7. Davani-Davari, D., Negahdaripour, M., Karimzadeh, I., Seifan, M., Mohkam, M., Masoumi, S. J., Berenjian, A., & Ghasemi, Y. (2019). Prebiotics: Definition, Types, Sources, Mechanisms, and Clinical Applications. Foods (Basel, Switzerland), 8(3), 92. https://doi.org/10.3390/foods8030092
8. The National Center for Complementary and Integrative Health. (2019). Probiotics: What You Need To Know. Retrieved from https://www.nccih.nih.gov/health/probiotics-what-you-need-to-know
9. Mayer EA, et al. Nat Rev Neurosci. 2011 Jul13;12(8): 453-66.
10. Van Oudenhove L, et al. Best Pract Res Clin Gastroenterol. 2004 Aug; 18(4):663-80.

 

 

 

 

 

 

Growing Together : LPR โพรไบโอติกที่มีผลวิจัยรองรับมากที่สุด เพื่อความแข็งแกร่งของเด็กยุค 5G

 

 

Growing Together

LPR โพรไบโอติกที่มีผลวิจัยรองรับมากที่สุดเพื่อความแข็งแกร่งของเด็กยุค 5G

ตรวจสอบข้อมูลโดย ศ.พญ.จรุงจิตร์ งามไพบูลย์

 

ยุคนี้แม่ต้องรู้จักโพรไบโอติกส์…จุลินทรีย์ดีที่ต้องมี

ปฎิเสธไม่ได้เลยว่ายุคนี้เป็นยุคของความแข็งแกร่ง เพราะด้วยสารพัดเชื้อโรคใหม่ๆที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้กระแสของการดูแลสุขภาพได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะแม่ๆที่ต้องดูแลลูกและคนในครอบครัว      สิ่งหนึ่งที่กำลังอยู่ในกระแสความสนใจและเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วคือ การใช้โพรไบโอติกส์หรือจุลินทรีย์ดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งจริงๆ แล้วในวงการแพทย์รู้จักจุลินทรีย์ดีเหล่านี้มานานแล้ว เพราะมีการศึกษาวิจัยมาอย่างยาวนาน  หลายสิบปี ในหลายสายพันธุ์ ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยปรับพื้นฐานความสมดุลของระบบทางเดินอาหาร ความสามารถ ของการสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน มีส่วนช่วยในระบบขับถ่าย และยังมีส่วนช่วยเสริมการทำงานของสมอง ซึ่งประโยชน์เหล่านี้จะส่งผลให้ร่างกายแข็งแกร่ง  แต่สิ่งที่ควรศึกษาเพิ่มเติมคือเรื่องของสายพันธุ์ เพราะมีโพรไบโอติกส์หลากหลายสายพันธุ์ที่มีลักษณะเด่นต่างกัน สายพันธุ์ที่อยากจะหยิบยกมาเขียนบทความในวันนี้คือ โพรไบโอติก LPR เพราะเป็นสายพันธุ์ที่กำลังดังในตอนนี้ เนื่องด้วยเป็นสายพันธุ์ที่มีงานวิจัยทางการแพทย์รองรับมากที่สุดมีการศึกษามายาวนานกว่า 30 ปี และมีคุณสมบัติที่น่าสนใจเหมาะกับการดูแลเด็กๆ ในยุคนี้

 

5 คุณประโยชน์ ของ โพรไบโอติก LPR…เพื่อฮีโร่คนเก่งยุค 5G

LPR  คือ โพรไบโอติก ซึ่งก็คือจุลินทรีย์ดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เป็นหนึ่งในจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ที่พบได้ในนมแม่ นอกเหนือจากสารอาหารอื่น ๆ ที่มีมากกว่า 200 ชนิด เช่น แคลเซียม วิตามิน แร่ธาตุต่าง ๆ และ DHA  ที่แม่ทราบกันดีอยู่แล้ว  โดย LPR ยังสามารถพบได้ในโยเกิร์ต นมเปรี้ยวและนมบางชนิดอีกด้วย จากงานวิจัยต่างๆที่ตีพิมพ์ในวารสาร               ทางการแพทย์ พอจะสรุปได้ถึงคุณประโยชน์ที่โดดเด่นของ LPR ได้

 

 

 

5 คุณประโยชน์* ของ โพรไบโอติก LPR

 

ช่วยปกป้องทางเดินหายใจ ลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจลงได้ร้อยละ 37

 

 

 

ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยเพิ่มจำนวนเซลล์ที่มีหน้าที่สร้างแอนติบอดี้ ชนิด IgM, IgA, IgG

 

 

 

ช่วยในการย่อยและดูดซึมสารอาหาร เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของลำไส้ ช่วยให้ดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น

 

 

 

ช่วยเรื่องการขับถ่าย ช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในทางเดินอาหาร จึงมีส่วนช่วยในการขับถ่าย

 

 

 

ช่วยเสริมการทำงานของสมอง มีส่วนร่วมในการสร้างสารสื่อประสาท ช่วยเพิ่มศักยภาพสมองด้านกระบวนการทางสติปัญญา (cognitive performance)

 

 

จากบทสรุปข้างต้นจะเห็นได้ว่า โพรไบโอติก LPR มีความน่าสนใจในเรื่องคุณประโยชน์ ที่มีผลต่อสุขภาพของระบบทางเดินอาหาร ภูมิคุ้มกัน และความแข็งแกร่งของร่างกายโดยรวม ซึ่งส่งผลพัฒนาการของลูกในระยะยาว

 

*เอกสารอ้างอิง

  1. Hojsak I, et al. Clin Nutr. 2010 Jun;29(3):312-6.
  2. Rinne M, et al. J Pediatr 2005; 147(2): 186–91.
  3. Flach J, et al. Cogent Food & Agriculture Volume 4, 2018 – Issue 1
  4. Wang G, et al. Front Cell Infect Microbiol. 2020; 10: 423.

 

Growing Togther : เสริมภูมิคุ้มกัน สร้างความแกร่งให้ลูกรัก ต้องรู้จัก LPR จุลินทรีย์โพรไบโอติก

Growing Together

เสริมภูมิคุ้มกัน สร้างความแกร่งให้ลูกรัก ต้องรู้จัก LPR จุลินทรีย์โพรไบโอติก

ในปัจจุบันโพรไบโอติกกำลังได้รับความสนใจอย่างสูงเนื่องด้วยความตื่นตัวของกระแสการดูแลสุขภาพที่ให้ความสำคัญกับพื้นฐานของระบบทางเดินอาหาร และระบบย่อยอาหารที่ดี ที่เป็นกุญแจสำคัญของระบบภูมิคุ้มกัน และการมีร่างกายที่แข็งแรง เพื่อพร้อมรับมือกับเชื้อโรคใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น จุลินทรีย์ LPR เป็นหนึ่งในจุลินทรีย์โพรไบโอติกที่กำลังได้รับการกล่าวขวัญถึงอย่างมาก

LPR คือหนึ่งในจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ที่พบในนมแม่ โยเกิร์ตและนมบางชนิด ที่น่าสนใจก็คือ จุลินทรีย์ LPR มีงานวิจัยในหลากหลายด้าน ที่หยิบยกมาวันนี้ก็คือเรื่องของงานวิจัยเกี่ยวกับเรื่องการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจในเด็กซึ่งเป็นเรื่องที่มีความสำคัญในยุคนี้มาก เนื่องด้วยปัจจุบันเด็กต้องเผชิญกับเชื้อไวรัสที่หลากหลายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูฝนที่กำลังจะมาถึง

 

 

 

 

ปกป้องทางเดินหายใจในเด็ก (ศึกษาในเด็กอายุ 1–7 ปี)

LPR จึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้เด็กมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดี ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และเมื่อเด็กไม่เจ็บป่วย สมองก็พร้อมเรียนรู้ในทุกๆ วัน เด็กยุคนี้ต้องสตรอง ร่างกายแข็งแกร่งมีความเก่งเฉพาะตัวที่ช่วยให้พร้อมสู่โลกอนาคต

 

 

 

 

LPR จุลินทรีย์โพรไบโอติกสายสตรอง ลดการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน

LPR จุลินทรีย์โพรไบโอติกเป็นจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เรียกได้ว่าเป็นจุลินทรีย์ประจำถิ่นอย่างหนึ่งในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งการรักษาสมดุลจุลินทรีย์ให้เป็นปกติ มีจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์มากกว่าจุลินทรีย์ก่อโรคเป็นสิ่งที่มีผลดีต่อสุขภาพของระบบทางเดินอาหาร และภูมิคุ้มกันความแข็งแรงของร่างกายโดยรวม รวมถึงพัฒนาการของลูกในระยะยาว มีงานวิจัยเกี่ยวกับจุลินทรีย์ LPR และการปกป้องระบบทางเดินหายใจในเด็กอายุ 1–7 ปี ว่าช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อในทาวเดินหายใจส่วนบนได้ถึง 37%

 

LPR จุลินทรีย์โพรไบโอติก มีงานวิจัยทางการแพทย์รองรับมากที่สุด

ในปัจจุบัน LPR เป็นหนึ่งในสารอาหารที่กำลังได้รับความสนใจ โดยในวงการผู้เชี่ยวชาญในประเทศไทย และสมาคมผู้เชี่ยวชาญระดับโลก ทั้งใน ยุโรป อเมริกา อเมริกาใต้ ที่น่าสนใจคือ LPR จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ชนิดนี้ มีงานวิจัยทางการแพทย์รองรับมากที่สุด และ มีการศึกษาในด้านคุณประโยชน์มาต่อเนื่องกว่า 30 ปี

 

 

นอกจาก LPR จุลินทรีย์โพรไบโอติกจะช่วยลดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจแล้ว โพรไบโอติกยังช่วยส่งเสริมการย่อยอาหารและการขับถ่ายที่เป็นปกติ การมีสมดุลของจุลินทรีย์ที่ดีช่วยส่งเสริมสุขภาพของระบบย่อยอาหารและทางเดินอาหารให้มีสุขภาพแข็งแรง ย่อมส่งเสริมสุขภาพองค์รวมให้แข็งแรง คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความใส่ใจเรื่องโภชนาการของลูก ส่งเสริมให้ลูกได้รับ LPR ซึ่งเป็นหนึ่งในจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ที่พบในนมแม่ โยเกิร์ต และนมบางชนิดเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับลูก

 

Growing Together : LPR เคล็ดลับของความแกร่ง สู่ความเก่งที่พัฒนาได้เต็มศักยภาพ

Growing Together

ทำความรู้จัก LPR เคล็ดลับแห่งความฉลาด
ของลูกน้อย เติบโตแข็งแรงสมวัย เรียนรู้ได้เต็มที่

   เคล็ดลับของความแกร่ง สู่ความเก่งที่พัฒนาได้เต็มศักยภาพ

ตรวจสอบข้อมูลโดย ศ.พญ.จรุงจิตร์ งามไพบูลย์ กุมารเวชศาสตร์ โรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน  ศูนย์สุขภาพเด็กและวัยรุ่น โรงพยาบาลพญาไท 2

 

LPR คือ จุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ เสริมความแข็งแกร่ง…จึงเก่งได้อย่างใจฝัน

         LPR ดีต่อระบบทางเดินอาหาร เพราะ LPR คือ จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เป็นหนึ่งในจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ที่พบได้ในนมแม่ จากสารอาหารในนมแม่ที่มีมากกว่า 200 ชนิด เช่น แคลเซียม วิตามิน แร่ธาตุต่างๆ และ DHA ที่แม่ทราบกันดีอยู่แล้ว LPR ยังสามารถพบได้ในโยเกิร์ต นมเปรี้ยว และนมบางชนิดอีกด้วย โพรไบโอติกส์เป็นจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เรียกได้ว่าเป็นจุลินทรีย์ตามธรรมชาติในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งการรักษาสมดุลจุลินทรีย์ให้เป็นปกติ มีจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์มากกว่าจุลินทรีย์ก่อโรคเป็นสิ่งที่มีผลดีต่อสุขภาพของระบบทางเดินอาหาร ภูมิคุ้มกัน ความแข็งแรงของร่างกายโดยรวม  รวมถึงพัฒนาการของลูกในระยะยาว

 

                      ผลการศึกษาทางเดินหายใจ(เด็กอายุ 1-7 ปี)

 

 

LPR ก็คือ จุลินทรีย์ที่พบได้ในลำไส้ของเด็กที่ได้รับ นมแม่ ช่วยปกป้องเยื่อบุลำไส้          ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดี ปกป้องร่างกายจากการติดเชื้อทางเดินหายใจให้ลดลงได้      ร้อยละ 37 ระบบทางเดินอาหารก็ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้เต็มที่ ระบบภูมิคุ้มกันก็แข็งแกร่ง ร่างกายก็เติบโต แข็งแรงสมวัย

 

 

 

ระบบทางเดินอาหารกับสมองทำงานเกี่ยวข้องกัน

สมองและทางเดินอาหาร มีการสื่อสารกัน โดยในปัจจุบันมีงานวิจัยสนับสนุนว่า                  จุลินทรีย์ในทางเดินอาหารมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสื่อสารระหว่างทางเดินอาหาร                    และพัฒนาการทางสมอง

 

 

 

 

 

LPR มีส่วนช่วยเสริมการทำงานของสมอง

    LPR เป็นจุลินทรีย์ในกลุ่ม Lactobacillus ซึ่งมีผลการศึกษาว่าจุลินทรีย์กลุ่มนี้มีส่วนร่วม     ในการสร้างสารสื่อประสาทในสมอง นอกจากนั้น เมื่อร่างกายแข็งแกร่ง พร้อมเรียนรู้    พัฒนาการทางสมองก็เกิดขึ้นได้อย่างเต็มที่ เปิดโอกาสให้ลูกได้ค้นหาสิ่งที่ชอบและเก่ง         ได้อย่างใจฝัน เพราะแน่นอนว่า เมื่อร่างกายแข็งแกร่ง สมองก็สามารถพัฒนาได้เต็มที่ตามวัยไม่มีสะดุด เสริมความสตรองของเด็กยุคนี้…ให้แกร่งและเก่งได้เต็มศักยภาพ

 

 

มีส่วนร่วมในการสร้างสารสื่อประสาท

  • ย่อย Tryptophan ได้สารตั้งต้นในการสร้างสารสื่อประสาท เช่น serotonin
  • เปลี่ยนกลูตาเมทให้กลายเป็นสารสื่อประสาท GABA
  • มีผลต่อสารสื่อประสาท เช่น serotonin และ GABA
  • มีผลต่อการทำงานของ GABA ต่อ receptors

 

ข้อมูลน่ารู้อื่นๆ เกี่ยวกับจุลินทรีย์ LPR

ในปัจจุบันจุลินทรีย์ LPR กำลังได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยคุณค่าทางด้านสุขภาพของจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และเป็นจุลินทรีย์สายพันธุ์ที่มีงานวิจัยรองรับว่าช่วยในการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันมากที่สุด จุลินทรีย์ LPR ที่พบในนมแม่ โยเกิร์ต และนมบางชนิด เป็นหนึ่งในสารอาหารที่กำลังได้รับความสนใจ โดยในวงการผู้เชี่ยวชาญ

ในประเทศไทย และสมาคมผู้เชี่ยวชาญระดับโลก ทั้งใน ยุโรป อเมริกา รวมทั้งมีงานวิจัยทางการแพทย์รองรับมากที่สุด และมีการศึกษาในด้านคุณประโยชน์มาต่อเนื่องกว่า 30 ปี